ตำรวจไซเบอร์บุกทลายรังจีนเทา เช่าพูลวิลล่ากลางเมืองเชียงใหม่ ตั้งฐานเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท รวบ 14 ชาวจีนและชาวเมียนมา 3 คน
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยผลการปฏิบัติงานของ ศปอส.ตร. เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ 2 คดีสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งเป็นการกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งจีนเทา ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงเหยื่อ โดยมีเงินหมุนเวียนมหาศาลและความเสียหายต่อประชาชนจำนวนมาก
ทลายรังจีนเทาเช่าพูลวิลล่า พนันออนไลน์ เงินหมุนเวียน 500 ล้านบาท
บุกจับจีนเทาเช่าพลูวิลล่าเปิดฐานพนันออนไลน์ในอำเภอหางดง พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ก.ค.68 ตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพลูวิลล่าใน ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับรายงานว่าบ้านหลังดังกล่าวมีกลุ่มจีนเทา ใช้เป็นฐานเปิดเว็บพนันออนไลน์หลอกลวงผู้สูงอายุชาวจีน อายุระหว่าง 60-80 ปี มาร่วมลงทุน
จากการตรวจค้นพบชาวจีน 14 ราย เป็น ชาย 11 คน หญิง 3 คน และชาวเมียนมา 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ขณะที่กำลังอยู่ภายในห้องพักและทำงานหลอกลวงเหยื่อชาวจีนอยู่ สามารถยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 26 เครื่อง
กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวมีพฤติการณ์จัดตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกลวงชาวจีนให้ร่วมลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงิน จะถูกบล็อกการติดต่อทันที
สำหรับกลุ่มจีนเท่าเหล่านี้ ได้ย้ายฐานเว็บพนันจากพื้นที่ อ.สันทราย มาเช่าพลูวิลล่าใน อ.หางดง ได้ประมาณเดือนกว่า โดยมีบอสชาวจีนเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด หลังจากที่ทราบข่าวตำรวจได้มีการทลายจีนเทาเช่าบ้านจัดสรรหรูใน อ.สันทราย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบในคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ยึดได้ พบว่าผู้ต้องหาแต่ละคนเข้ามาทำงานโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ประเทศไทยได้ 2 เดือน และบางคนก็ใช้วีซ่านักศึกษาโดยที่ไม่ทราบว่าตนเองเรียนที่มหาวิทยาลัยใด
ตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการกวาดล้างและทลายเครือข่ายจีนเทา แล้วได้มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นพบมีมหาวิทยาลัยสงฆ์และมหาวิทยาลัยเอกชนได้มีการออกวีซ่านักศึกษาให้กับชาวจีนมากถึง 5 แห่ง
โดยมีชาวจีนที่ลงทะเบียนทั้งหมด 13,000 คน บางส่วนก็จะอาศัยช่องว่างนี้เข้ามาอยู่ประเทศไทยและมาก่อเหตุหลอกคนจีนด้วยกันเอง จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายเป็นชาวจีนจำนวนมากกว่าแสนราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านหยวน
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร” หลังจากนี้จะประสานกงสุลจีนให้มาตรวจสอบและจะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการต่อไป