เรียกได้ว่าสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง! หลังเกิดเหตุปะทะทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ไทยก่อน จนกลายมาเป็นสถานการณ์ที่เกิดความสูญเสียอย่างมาก เนื่องจากจุดที่ไทยโดนโจมตี ส่วนใหญ่เป็นบ้านของพลเรือนผู้บริสุทธ
และเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ได้เกิดการปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในพื้นที่ ช่องบก และ ภูมะเขือ จังหวัดอุบลราชธานี
รวมถึง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ การปะทะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง
ทั้ง ปืนใหญ่สนาม และ จรวด BM-21 เข้ามาในฝั่งไทย ขณะที่ฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธยิงสนับสนุนตามสถานการณ์
โดยทางหน่วยความมั่นคงกองทัพภาคที่สอง เปิดเผยสรุปความเสียหายเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 24 ก.ค.-เช้าวันที่ 25 ก.ค.68 ว่า
ทหารกัมพูชา สูญเสียในพื้นที่ หน้าปราสาทตาเหมือนธม ทหารกองพลน้อย ร.42 เสียชีวิต 1 ราย พื้นที่ใต้ประสาทตาเมือนธม
พบผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นทหาร 3 นาย ประชาชน 4 ราย และ พระสงฆ์ 1 รูป เครื่องบินโจมตี 3 บก.พลที่ 8, บก.พลที่ 9 และ บก.พลที่ 42,
โดรน โจมตี ยอดภูมะเขือ คลังอาวุธ และเสาสัญญาณ, ปืนใหญ่โจมตี รถถัง 2 คัน ตรงข้าม สัตตโสม พื้นที่ภูมะเขือ พบทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากโดรนทิ้งระเบิด 14 นาย
รวมทั้งสิ้น 23 ราย ส่วนวันที่ 25 ก.ค. ปืนใหญ่โจมตีตรงข้ามช่องบก ทำลาย ปืน ค.100 จำนวน 3 กระบอกทหารกัมพูชา เสียชีวิต 1 นาย รวมทั้งสิ้นทหารกัมพูชาเสียชีวิต 24 นาย