ดับฝัน น้องน้ำตาล อนาคตเภสัชสาว เหยื่อบึ้มชายแดนไทยกัมพูชา ล่าสุดดีขึ้นแต่ยังขยับแขน ขา ไม่ได้ ต้องทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูร่างกาย

วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่สถาบันประสาทวิทยา กรุงเทพมหานคร นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา

หนึ่งในผู้บาดเจ็บคือ น.ส.จตุพร สิงหัษฐิต หรือ “น้องน้ำตาล” อายุ 20 ปี ที่ถูกสะเก็ดระเบิดจนได้รับบาดแผลบริเวณต้นคอ และมีสะเก็ดระเบิดฝังอยู่ภายใน แพทย์ได้ผ่าตัดนำออกเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากไขสันหลังบริเวณต้นคอได้รับความเสียหาย ทำให้น้องมีอาการอ่อนแรงตั้งแต่ต้นคอลงมา รวมถึงกระบังลมอ่อนแรง ส่งผลให้หายใจลำบากและต้องเจาะคอช่วยหายใจ

ผลการตรวจ CT Scan และ MRI ล่าสุด พบว่ากระดูกต้นคอข้อที่ 3 และ 4 ซึ่งเคยหักเริ่มประสานกันแล้ว ขณะที่ไขสันหลังมีร่องรอยฝ่อ แพทย์วางแผนทำกายภาพบำบัดต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูร่างกาย

นายพัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสเดียวกันยังได้ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าด้านการแพทย์ของสถาบันประสาทวิทยา ที่ได้นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการรักษาโรคระบบประสาท โดยเฉพาะการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันระยะเฉียบพลันด้วยวิธี สายสวนหลอดเลือดสมอง (Endovascular Thrombectomy) ซึ่งเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ช่วยลดความพิการและลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมาก ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข

ขณะที่ ป้าของน้องน้ำตาล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า น้องน้ำตาลเป็นเด็กเรียนเก่ง มีความฝันอยากเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น หลังเรียนจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี น้องได้พยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยถึง 3 ครั้ง

ครั้งแรกติดแพทย์ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี แต่น้องสละสิทธิ์เพราะอยากเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ครั้งที่สองสอบติดคณะเภสัชศาสตร์แต่ก็สละสิทธิ์อีกจนครั้งที่สามสอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม และตัดสินใจเข้าเรียน โดยมีกำหนดเปิดเทอมวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่กลับมาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นก่อนหน้าเพียง 8 วัน

เหตุการณ์นี้ได้ดับฝันของน้องน้ำตาลและครอบครัวที่หวังเห็นลูกสาวคนโตได้เป็นแพทย์อย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็ก น้องน้ำตาลเป็นพี่คนโตในบรรดาพี่น้อง 3 คน โดยน้องคนที่สองเป็นเด็กพิเศษแต่เรียนเก่ง ส่วนคนเล็กยังอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น ทำให้เธอกลายเป็นความหวังสำคัญของครอบครัวที่ทุกคนฝากอนาคตไว้ด้วยความรักและศรัทธา