หลังจากที่พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับประเด็นการออกเสียงประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และกรณีการยุบสภา พรรคได้ระบุว่า การลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในวันนี้มีประเด็นสำคัญที่สมาชิกรัฐสภามีความเห็นไม่ตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดให้ต้องใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หนึ่งในสามในการให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก่อนที่จะนำไปสู่ประชามติ ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดทางให้ สว. มีอำนาจกำหนดทิศทางและควบคุมเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง

พรรคประชาชนระบุว่า ในชั้นกรรมาธิการ พรรคภูมิใจไทยเคยเห็นชอบตามเสียงข้างมากให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาโดยไม่ต้องอาศัยเสียง สว. หนึ่งในสาม แต่ในการลงมติวันนี้ พรรคภูมิใจไทยกลับลงคะแนนสนับสนุนให้คงอำนาจ สว. ไว้ ซึ่งพรรคประชาชนมองว่าเป็นเหตุให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่สามารถนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนต้องการได้จริง

แถลงการณ์ยังระบุว่า ตลอดที่ผ่านมา พรรคประชาชนได้พยายามประนีประนอมกับหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดความคืบหน้าในการเปิดทางไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ภายใต้ข้อจำกัดทางการเมือง แต่การแปรญัตติที่เปิดโอกาสให้ สว. มีอำนาจควบคุมเนื้อหาในวันนี้ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ขัดขวางการจัดทำรัฐธรรมนูญของประชาชนในอนาคต และเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

ด้วยเหตุนี้ พรรคประชาชนจึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน พร้อมเสนอว่าภารกิจสุดท้ายที่พรรคภูมิใจไทยควรดำเนินการเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ คือให้รัฐบาลรักษาการนำเรื่องการออกเสียงประชามติคำถามที่ 1 เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีภายในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม เพื่อกำหนดวันประชามติในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พร้อมระบุว่า แล้วพบกันที่คูหาเลือกตั้ง

ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาแสดงความเห็นสั้นๆ ใต้โพสต์แถลงการณ์ของเพจเฟซบุ๊กพรรคประชาชนว่า ตามนั้นครับ