มีรายงานว่า ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ ได้มีการจัดพิธีรับ – ส่งร่างวีรบุรุษผู้กล้า คือ จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน หรือจ่าเริง และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา หรือพลทหารวุ้น ทหารผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยพิธีเป็นไปอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
ในพิธีมีหัวหน้าส่วนราชการทหาร ทหารผ่านศึก และกำลังพล เข้าแถวทำความเคารพส่งร่างทหารกล้ากลับสู่ภูมิลำเนา ขณะเดียวกันประชาชนตลอดสองข้างทางถนนสุรินทร์ – ปราสาท ต่างโบกสะบัดธงไตรรงค์ เพื่อแสดงความอาลัยและสดุดีแด่ทหารผู้พลีชีพเพื่อแผ่นดินไทย
นางอุ่น คลังประโคน อายุ 79 ปี คุณแม่ พร้อมด้วยภรรยาและบุตรของจ่าเริง เดินทางมารับร่าง โดยคุณแม่กล่าวด้วยความปลื้มปีติที่บุตรชายได้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติอย่างสมศักดิ์ศรี แม้ในขณะเดียวกันจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ต่อการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ขณะที่นางพิชญ์สินี เสาร์สา อายุ 41 ปี คุณแม่ของพลทหารภานุพัฒน์ มีสีหน้าสงบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า บรรยากาศในพิธีปกคลุมไปด้วยความอาลัยของทั้งสองครอบครัว
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีสดุดีและส่งร่างวีรบุรุษทั้งสอง โดยมีนายจำเริญ แหวนเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย พลตรีไชยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 หัวหน้าส่วนราชการ และกำลังพลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับทหารกล้าทั้งสองนาย ได้ประจำการในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา และเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ณ สมรภูมิเนิน 350 อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยมณฑลทหารบกที่ 25 ได้จัดขบวนเคลื่อนร่างออกจากโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ ภูมิลำเนา
ร่างของจ่าเริง จะเคลื่อนไปยังวัดห้วยปอ ตำบลปังกู อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนร่างของพลทหารภานุพัฒน์ จะเคลื่อนไปยังวัดกลาง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป
ชาวบ้านที่มาร่วมส่งต่างโบกธงไตรรงค์พร้อมน้ำตา และกล่าวขอบคุณทหารกล้าทั้งสองที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
อย่างไรก็ตาม มีประชาชนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจกับทะเบียนรถที่ใช้เคลื่อนร่างทหารกล้าในครั้งนี้ โดยรถที่บรรทุกร่างของพลทหารภานุพัฒน์ใช้ป้ายทะเบียนเลขไทย หมายเลข 96191 ขณะที่รถเก๋งนำขบวนใช้ทะเบียนหมายเลข 52444 ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นทะเบียนที่สะดุดตาและถูกกล่าวถึงในวงกว้าง
