เรียกได้ว่ากลายเป็นเรื่องราวมที่ถูกพูดถึงสุดในวงการศัลยกรรมอินโดนีเซียที่กำลังกลายเป็นไวรัลอย่างมาก เมื่อได้มีเพจดังอย่าง Poetry of Bitch ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของ เม โฟลม (Mee Flome) อินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน ออกมาโพสต์ว่าเธอต้องเข้าสู่ภาวะโคม่านานเกือบ 1 เดือน และมีอาการเส้นประสาทเสียหายถาวร
หลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกความงามแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 โดยระบุว่าพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่คลินิกขณะที่เธอมีอาการชักนั้นสุดสะเทือนใจ เพราะพวกเขาคิดว่าเธอ ถูกผีเข้า แทนที่จะให้การช่วยเหลือทางการแพทย์
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Poetry of Bitch
โดย เม เล่าว่า ระหว่างการผ่าตัดที่ Clinique Suisse เธอมีอาการชักรุนแรง แพทย์จึงให้ยาสลบเพิ่มเพื่อระงับอาการ แต่หลังจากผ่าตัด เธอกลับมีอาการชักซ้ำอีกครั้งและต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง สิ่งที่น่าตกใจคือ เจ้าหน้าที่คลินิกกลับเข้าใจผิดคิดว่าเธอถูกผีสิง! แทนที่จะเรียกแพทย์หรือให้การรักษาฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่กลับพยายามพูดคุยเพื่อปลอบประโลมและขับไล่สิ่งที่เชื่อว่าเป็น ผี ออกไป โดยมีคำพูดเช่น ออกไปเถอะนะ สงสารเธอ
เมชักกระตุกอยู่อย่างนั้นนานถึง 12 ชั่วโมง กว่าคลินิกจะตัดสินใจนำเธอส่งโรงพยาบาลในเวลา 5 ทุ่ม และหลังจากนั้น เธอก็เข้าสู่ภาวะโคม่านานเกือบ 1 เดือน เมื่อฟื้นขึ้นมา เธอกลับพบว่าเส้นประสาทของเธอเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการพูดและการเคลื่อนไหว เธอมีอาการตัวสั่นและชักกระตุกตลอดเวลาจนไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้เวลานานนับปีกว่าจะฟื้นตัวจากการทำกายภาพบำบัด ฝึกเดินและฝึกพูด แม้ปัจจุบันอาการจะดีขึ้นบ้าง แต่เธอก็ยังไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเองและพูดไม่ชัดเจน
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Poetry of Bitch
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา เมและเพื่อนได้ตัดสินใจแชร์เรื่องราวนี้ผ่าน TikTok เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้อื่น พร้อมเปิดเผยชื่อคลินิก (Clinique Suisse) และชื่อเจ้าหน้าที่บางราย เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย
เมเปิดเผยว่าคลินิกไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ และไม่แม้แต่จะกล่าวคำขอโทษ โดยอ้างว่าเธอได้เซ็นยอมรับความเสี่ยงก่อนการผ่าตัดแล้ว นอกจากนี้ คลินิกยังปิดช่องแสดงความคิดเห็นในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และพบว่า Google Review ของคลินิกถูกลูกค้าเข้ามาให้คะแนน 1 ดาวจำนวนมาก จนคะแนนรีวิวเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 2.7
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : Poetry of Bitch
เมตั้งข้อสังเกตว่าคลินิกไม่ได้ให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงหรือสุขภาพของผู้ป่วยเลย แต่กลับมุ่งเน้นไปที่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อมูลว่าในปี 2024 เคยมีผู้ป่วยรายอื่นฟ้องคลินิกนี้ในข้อหาคล้ายคลึงกันแต่คดีไม่คืบหน้า ซึ่งขณะนี้มีทนายความชื่อดังเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือคดีของเมแล้ว
นพ. Andika Prasetyo วิสัญญีแพทย์ชาวอินโดนีเซีย ได้ให้ความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ว่า การให้ยาสลบจะต้องดำเนินการโดยวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการใช้ยาสลบในปริมาณสูงโดยไม่มีการประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะเป็นพิษต่อร่างกายหรือทำให้เส้นประสาทเสียหายถาวรได้
ภาพจาก TikTok : @memeflome
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์