อีกหนึ่งเสียงจากคนในพื้นที่ ที่เติบโตมาพร้อมกับปัญหาชายแดน แต่เจ้าตัวถึงกับออกปากว่าตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องหนีเอาชีวิตให้รอดขนาดนี้ ซึ่ง เจี๊ยบ กนกพร หรือ กนกพร พรหมมา อดีตนักร้องชื่อดังค่ายอาร์สยาม ต้องรีบหอบครอบครัวหนีตาย จากเหตุการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้โฟนอินเข้ามาใน รายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 เล่าถึงสถานการณ์ล่าสุด พร้อมน้ำตาคลอที่ต้องสูญเสียคุณยาย และคุณตาขาขาด รวมไปถึงหลานที่ปอดแตกจากเหตุการณ์นี้ ยืนยันว่าเขมรเป็นคนเริ่มก่อน และเขมรเองที่ทำให้ประชาชนของตัวเองต้องสูญเสีย เพราะมีผู้นำโง่ๆ
บ้านพี่เจี๊ยบเป็นยังไงบ้าง?
“สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ปกติ ตอนนี้ทางการและทหาร ยังไม่ให้กลับเข้าไปในเขตอำเภอ”
ก็คือพี่เจี๊ยบ และครอบครัวได้อพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว?
“ใช่ค่ะตอนนี้ก็ได้อพยพออกมาแล้ว แต่ก็เหลือพี่ชาย ที่บวชเป็นพระ ยังอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจำพรรษาอยู่กับพระหลาน ทั้งหมด 3 รูป ก็ยังอยู่ในพื้นที่ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะยังไงดี แต่พี่เจี๊ยบ ก็ได้โพสต์ไปเมื่อเช้า ว่าขอความช่วยเหลือ ให้หน่วยงานเข้าไปดูหน่อย เพราะไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้ มีอะไรฉันหรือเปล่า“
ทางรายการก็ต้องขอแสดงความเสียใจ ที่คุณยายได้เสียชีวิต และหลานได้รับบาดเจ็บ?
”คุณตาขาขาด ส่วนคุณยายเสียชีวิต และหลานปอดแตก ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ก็ไม่น่าจะรอด ถึงขนาดปอดแตก ก็น่าจะไม่รอด ตอนแรกตัดสินใจว่าจะไม่ออกจากพื้นที่ แต่เสียงปืนมันดังมาก ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดอะไรรุนแรงขนาดนี้ เพราะตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กๆ ก็เจอเหตุการณ์แบบนี้มาตลอด แต่ครั้งนี้มันจะรุนแรงมาก ทีแรกเข้าใจว่าเค้าไม่น่าจะยิงใส่ประชาชน นึกว่ามันเป็นลูกหลง แต่พอมันมีลูกสอง ลูกที่สาม ที่สี่ที่ห้า เฮ้ย… มันไม่ใช่ลูกหลงแล้ว มันคือความตั้งใจที่จะยิงมา ตั้งใจที่จะยิงใส่เรา และหมู่บ้านข้างๆ ที่พี่เจี๊ยบอยู่ เค้าก็โดน แต่ตอนนั้นหมู่บ้านเรายังไม่โดน แต่พอเราออกมาจากพื้นที่ ทางข้างหน้า ข้างบ้าน และหลังบ้าน โดนยิงใส่ ซึ่งต่อจากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไงต่อไป“
อย่างวันแรกที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดลง บ้านของพี่เจี๊ยบอยู่ตรงไหน?
”บ้านของพี่อยู่ระหว่างกึ่งกลางของช่องอานม้า ซึ่งเป็นจุดที่กองพลเขาตั้งกองทัพอยู่ สำหรับปะทะ แล้วก็มีเนินห้าร้อย บ้านพี่อยู่ตรงกลางระหว่างนี้ ช่องบก ช่องอานม้า เนินห้าร้อย มันจะอยู่ในแนวเดียวกัน รัศมีของบ้านพี่จะอยู่ประมาณ 10 กิโล ซึ่งก็อยู่ในวิถีที่เค้ายิงจรวดข้ามม
ซึ่งครั้งแรกที่ได้ยินเสียงระเบิด ทางกัมพูชาเป็นคนยิงมาใช่ไหม?
“กัมพูชาเป็นคนเปิดก่อนเสมอ นางจะเปิดก่อนเสมอ ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราอยู่ชายแดน อย่างที่ชาวบ้านเค้าเห็น แล้วเค้าก็พูดกัน มันเป็นเหตุการณ์เล็กๆ มีการประทะกันตลอดมา เขมรทำเหมือนเป็นการยั่วยุ อาการเหมือนเป็นคนอันธพาล จะทำให้ฝั่งไทยเกิดอาการทนไม่ได้ เลยต้องตอบโต้กลับ และสองเดือนก่อนหน้านี้ ทางการก็ได้มาซักซ้อมคนในหมู่บ้าน ซ้อมอพยพถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ซึ่งทางเราก็เตรียมกระเป๋าเรียบร้อย และอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เราไม่ได้เตรียมตัว ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ เราเห็นข้อความเตือนว่าอพยพด่วน ให้ออกจากพื้นที่ภายในรัศมี 10 กิโล ถึง 40 กิโล มันเป็นคำเตือนที่ทุกครั้งเค้าก็เตือนเรา ให้เราระวังตัว เราก็ไม่ได้ระวังอะไร และตอนเช้า ลูกชายก็โทรกลับมาหาเรา หลังจากที่เราไปส่งเขาที่โรงเรียนแล้ว เค้าก็ร้องไห้ เสียงเด็กวิ่งกันในโรงเรียน เราก็เลยต้องรีบขับรถไปรับลูกเรา พอไปถึงโรงเรียนก็ต้องไปหาอีกว่าลูกเราอยู่ตรงไหน เพราะเค้าตกใจ เขาก็วิ่งไปซ่อน”
“ซึ่ง ณ ตอนนั้นยังไม่ได้ยินเสียงปืน แต่พอรับกลับมาถึงบ้าน เสียงระเบิดก็ดังตุ้ม จนบ้านสั่นสะเทือน คราวนี้แหละจะหยิบอะไรก่อน เพราะว่ายายเองก็ติดเชื้อในกระแสเลือด ก็เลยอุ้มเอายายขึ้นรถก่อน พอขับรถออกมาประมาณ 10 นาที รถมันติดเยอะมาก จากนั้นเราก็เช็คทางไลน์ บ้านของน้องสะใภ้อีกอำเภอหนึ่ง ก็โดนระเบิด โดนคุณตา โดนคุณยาย แล้วก็โดนหลาน (น้ำตาคลอ) พี่เจี๊ยบแค้นมาก พี่เจี๊ยบก็พูดเอ่ยชื่อถึงนายก … จริงๆ มันไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แล้วเขมรมันยั่วตลอด มันยิงเราตลอด ซึ่งทหารไทยของเรามีความอดทนสูงมาก มีความกรุณา มีความเมตตา โดยเฉพาะสงคราม ทหารไทยจะปฏิบัติตามขั้นตอน อยู่ภายใต้กฎหมายของสากลโลก ไม่มีทางที่ฝั่งไทยเราจะไปยิงใส่เขมรก่อน เค้าจะไปยิงคุณก่อนเพื่ออะไร และถ้าเค้าไปยิงเขมรก่อน ไทยเราจะได้อะไร แต่เขมร บอกเลยนะ ป่าเถื่อน สันดานโจรมาก ซึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่ชายแดน เราจะไม่รู้หรอก ผู้หลักผู้ใหญ่จะไปรู้อะไรมีแต่ออกคำสั่ง เพราะเราเป็นคนที่อยู่ชายแดน เราเจอเหตุการณ์ปะทะเล็กน้อยในเกือบทุกๆวัน แต่ก็ไม่ได้รายงาน มันไม่ได้เรื่องใหญ่ มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติปกติ แต่การที่ระเบิดลง เด็กเสียชีวิต มันไม่ใช่เรื่องสงครามธรรมดา มันคืออาชญากร”
สภาพจิตใจของพี่เจี๊ยบและครอบครัวเป็นยังไงบ้าง?
”พี่ไม่กล้าดูคลิป เพราะดูทีไรเราก็หดหู่ใจ สลดใจ สงสารทหาร บางทีเค้าก็ไม่มีข้าวกิน เพราะไม่มีใครสามารถไปส่งเสบียงให้เขาได้ และทางการก็ห้ามเข้าในพื้นที่ อย่างวันนี้ก็ถามไถ่กันว่า ทหารที่อยู่ข้างบนเค้ากินอะไรกัน เขากินมาม่าแห้ง กินกาแฟแห้ง กับน้ำฝนที่มันตกลงมา มันหดหู่กันไปหมด ส่งกำลังใจให้แล้วก็ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองว่าอย่าให้เป็นอะไรมากกว่านี้ มันยุคไหนแล้ว มาทำสงครามเพื่ออะไร ไอ้ตาเดียวมันก็หนีไปไหนตอนไหนแล้ว จะมาโง่ยิงกัน ทางฝั่งกัมพูชาเค้าก็สูญเสียเยอะเหมือนกัน ซึ่งเป็นฝั่งเค้าเองที่ทำให้ประชาชนเขาสูญเสียกันเอง เพราะเค้าก็มีผู้นำโง่ๆ ไง“
สถานการณ์เวลานี้เป็นยังไงบ้าง?
”ก็ยังไม่ปกติ เมื่อวานก็เริ่มตอนตีสาม วันนี้ก็เริ่มใหม่แล้วประมาณ 8 โมงเช้า หนักหน่วง แล้วก็มีคำสั่งจากทางการอย่างเด็ดขาดว่าทุกคนห้ามเข้าพื้นที่ ส่วนคนที่อยู่ข้างใน ก็ยังไม่ให้ออกมาเลย เราก็ไม่รู้ ว่าเมื่อไหร่มันจะคลี่คลาย แต่ก็ภาวนาให้มันจบเร็วๆ เราต้องทำมาหากิน“
ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show วันและเวลาใหม่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-12.30 น. เริ่มเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama