ชายคนหนึ่งเป็นโรคไตเพราะกิน “ผักนี้” ทุกวัน ที่ใครก็ว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด!
ผักที่มื้อหนึ่งเราอาจคิดว่าดีต่อสุขภาพกลับกลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ของปัญหาใหญ่ ถ้านำมาบริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะผักที่มีสาร ออกซาเลต (oxalate) สูง เช่น ผักโขม ซึ่งมีกรณีผู้ป่วยที่กินผักนี้ประจำจนเกิดภาวะไตล้มเหลวเฉียบพลัน
เคสตัวอย่าง กินผักโขมทุกวันจนไตพัง
ชายวัย 42 ปี สัญชาติจีน เดิมมีสุขภาพทั่วไปดี มีเพียงอาการเกาต์เล็กน้อยแต่ไม่ได้รักษา ต่อมามีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง อุจจาระบ่อย 4‑5 ครั้งต่อวัน เมื่อเข้ารับการตรวจ พบว่า ระดับครีเอตินีนในเลือดสูงถึง 430 µmol/L และการตรวจโดยวิธี CT พบจุดผิดปกติในไตหลายจุด
แพทย์ทำการตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy) พบว่ามีเกล็ดออกซาเลตแคลเซียมจำนวนมากกระจายในท่อไต พร้อมมีการอักเสบรุนแรง จึงสรุปว่าเป็นโรค oxalate nephropathy หรือการที่ผลึกออกซาเลตแคลเซียมสะสมในเนื้อไต จนทำลายเนื้อเยื่อ และทำให้หน้าที่การกรองของไตด้อยลง
ทำไมผักโขมถึงเป็นภัยต่อไต?
ภายในร่างกาย สารออกซาเลตมักถูกกรองผ่านไตและขับออกทางปัสสาวะ แต่หากมีปริมาณมากผิดปกติ ออกซาเลตจะจับกับแคลเซียม กลายเป็นคริสตัลที่เหมือน “เศษแก้ว” ที่ทิ่มผนังท่อไต ทำให้เกิดการอุดตัน สร้างความเสียหาย และนำไปสู่ภาวะไตเสื่อมได้ หากปล่อยให้เป็นเรื้อรัง อาจพัฒนาเป็นโรคไตระยะลุกลาม ต้องฟอกเลือดหรือปลูกถ่ายไตในที่สุด
- ไม่ใช่การนึ่ง! อึ้งผลวิจัยใหม่ “วิธีปรุงผัก” ที่รักษาสารอาหารได้มากที่สุด กลายเป็นวิธีที่ง่ายสุดๆ
ต่างชาติอวย “ราชาน้ำดี” ผลไม้เย็นชื่นใจ ช่วยระบบขับถ่าย-บำรุงหัวใจ-เสริมภูมิคุ้มกัน!
ใครบ้างที่ควรระวังผักที่มีออกซาเลต?
กลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการบริโภคผัก-อาหารที่มีออกซาเลตสูง ได้แก่
- ผู้ที่มีภาวะไตเรื้อรัง
- ผู้ที่เคยเป็นนิ่วในไต
- ผู้ป่วยเกาต์
- ผู้ที่มีปัญหาด้านระบบย่อยอาหาร หรือรับประทานยากระตุ้นบางชนิด
คำแนะนำจากแพทย์เพื่อป้องกันไตเสีย
เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ — ประมาณ 2‑2.5 ลิตรต่อวัน (ขึ้นกับสุขภาพ) เพื่อเจือจางและขับออกคริสตัลออก
- ปรุงผักให้ถูกวิธี — ผักที่มีออกซาเลตสูง ควรลวกผ่านน้ำร้อนก่อนปรุง เพื่อลดเปอร์เซ็นต์สารอันตราย
- รับประทานอาหารให้สมดุล — ลดอาหารที่มีออกซาเลตสูง พร้อมเสริมแคลเซียมในมื้ออาหารเพื่อช่วยให้สารออกซาเลตจับแล้วถูกขับออกได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงวิตามินซีเกินขนาด — การบริโภคมากอาจเพิ่มการผลิตออกซาเลตในร่างกาย