เรียกได้ว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ สีกากอล์ฟ หรือ น้องดอกไม้ หญิงสาวจากจังหวัดพิจิตร ที่เข้าไปมีสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จนต้องสึกไปเกือบ 10 รูปในตอนนี้
สำหรับประวัติของ สีกากอล์ฟ หรือ สีกา ก. อายุประมาณ 35 ปี จากจังหวัดพิจิตร เดิมครอบครัวมีฐานะยากจน เรียนจบแค่ชั้น ม.3 ก่อนจะเดินทางมาหางานในกรุงเทพฯ โดยมักเข้าวัดทำบุญเพื่อคลายเครียด จนได้ใกล้ชิดพระผู้ใหญ่หลายรูป ชื่อ “สีกากอล์ฟ” เริ่มเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์เมื่อเธอออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูป โดยบางสื่อเรียกเธอว่า “น้องดอกไม้” ขณะที่ “สีกากอล์ฟ” มีประวัติไม่เป็นที่เปิดเผยมากนักก่อนจะตกเป็นข่าว และกลายเป็นบุคคลสาธารณะเพียงชั่วข้ามคืน
โดยจุดเริ่มต้นมาจาก ทิดอาชว์ (อดีตเจ้าคุณอาชว์/พระเทพวชิรปาโมกข์ แห่งวัดตรีทศเทพ) ที่สึกไป จนมีการสืบถึงสาเหตุสึกในครั้งนี้ว่ามีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง เลยเถิดถึงขั้นอ้างท้องและเรียกร้องค่าเลี้ยงดู
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของสีกากอล์ฟไม่ใช่ข่าวใหม่ แต่เป็นการสะสมหลักฐานและความสัมพันธ์กับพระผู้ใหญ่หลายรูปมาเป็นเวลานาน คลิปและจีวรในบ้านเป็นเครื่องยืนยัน ความเชื่อมโยงหลายวัดก่อนจะนำไปสู่การลาสิกขาของพระหลายรูป เหตุการณ์นี้จึงถือเป็นชนวนโยงสู่ข่าวเจ้าคุณอาชว์ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้คดีนี้กลายเป็นข่าวอื้อฉาววงกว้างในช่วงนั้น
หลังจากกรณีทิดอาชว์เป็นข่าวครึกโครมได้เพียงไม่นาน สีกากอล์ฟ ได้เผยภาพ วิดีโอ และข้อความสนทนาที่สื่อถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระผู้ใหญ่อีกหลายรูป บางรูปมีตำแหน่งสำคัญในวงการสงฆ์ไทย หลักฐานเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกวัด นำไปสู่การลาสิกขา การย้ายวัด และการตั้งคำถามถึงจริยธรรมของพระสงฆ์อย่างกว้างขวางในสังคม
ต่อมาตำรวจได้ตรวจอายัดมือถือกว่า 5 เครื่องของสีกากอล์ฟ พบหลักฐานคลิป ภาพ และแชตรวมกว่า 80,000 ไฟล์ เกี่ยวข้องกับพระผู้ใหญ่ 8 รูป ในระดับเจ้าคณะจังหวัดและ เจ้าอาวาสหลายวัด ตัวอย่างเช่น วัดพระพุทธฉาย สระบุรี, วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ, วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา และเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ได้สมัครใจลาสิกขา
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า สีกากอล์ฟ เรียกเงินจากพระต่าง ๆ ทั้งค่าเลี้ยงดู หรือข่มขู่ด้วยคลิปแบล็กเมล ตามข่าวพบว่าเจ้าคุณอาชว์ถูกเรียกเงินรวมกว่า 7 ล้าน นอกจากนี้ตำรวจ ยังระบุว่าพระผู้ใหญ่บางรูปมีโลกหลายใบ และมีความสัมพันธ์ซ้อนมากกว่า 1 คน
ข่าวฉาวดังกล่าวได้สะเทือนศรัทธาของชาวพุทธจำนวนไม่น้อย หลายคนรู้สึกผิดหวังที่พระผู้ใหญ่บางรูปประพฤติตนไม่เหมาะสม ขณะที่บางคนกลับตั้งคำถามต่อระบบของคณะสงฆ์ที่ขาดกลไกตรวจสอบอย่างจริงจัง ความเคลื่อนไหวจากสำนักงานพระพุทธศาสนา รวมถึงการสั่งตรวจสอบวัดและพระที่เกี่ยวข้อง สะท้อนความจำเป็นของการปฏิรูปสงฆ์อย่างเป็นระบบให้จริงจังมากกว่าเดิม