กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 7 – 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ในช่วงวันที่ 11 -13 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 10 – 13 ธ.ค. จะมีลมตะวันออกพัดเข้ามาปกคลุม ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่านตะวันตกจะพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในช่วงวันที่ 12 – 13 ธ.ค. ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 7 – 10 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันออกจะพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลางในช่วงวันที่ 7 – 8 ธ.ค. คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่างในช่วงวันที่ 10 – 11 ธ.ค. 68 ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ตอนบน ส่งผลให้พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ
ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. ขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ภาคเหนือ : ในช่วงวันที่ 8 – 11 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 10 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 12 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 14 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ในวันที่ 13 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 15 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง : ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก : ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) : ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) : ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล : ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 31 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 32 องศาเซลเซียส