จากกรณีกองทัพไทยได้สูญเสียกำลังพลเพิ่มอีก 2 นาย ได้แก่ จ่าสิบเอกเริง คลังประโคน และพลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา หรือพลทหารวุ้น สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 โดยเจ้าหน้าที่ได้พบร่างของกำลังพลทั้งสองนาย และลำเลียงไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์ ก่อนเตรียมประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ

สำหรับพลทหารวุ้น ภานุพัฒน์ เสาร์สา มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้มีการเคลื่อนร่างไปบำเพ็ญกุศลที่วัดกลาง ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ที่บ้านตาเม็ง ตำบลห้วยติ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว สภาพค่อนข้างทรุดโทรม โดยมีนางอุไร สงวนนามสกุล อายุ 45 ปี ป้าของพลทหารวุ้น นั่งเฝ้าดูสิ่งของเครื่องใช้ของหลานชายด้วยความอาลัย พร้อมจุดธูปเทียนบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า หลานที่รักได้กลับบ้านแล้ว

นางอุไร เปิดเผยว่า นอกจากจะมาบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังเดินทางมาเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าคู่โปรดของพลทหารวุ้น ซึ่งหลานชายเคยบอกว่าเป็นรองเท้าที่ใส่สบาย เหมาะกับการปฏิบัติภารกิจในสนามรบ

พร้อมเล่าว่าตนเองสนิทกับหลานชายมาก ทุกครั้งที่พลทหารวุ้นกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ มักจะมาใช้เวลาอยู่ที่บ้าน เป็นคนเข้มแข็ง และมักพูดเสมอว่าจะออกไปทำหน้าที่เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย

นางอุไร ยังเล่าต่อว่า หลังการรบครั้งแรก พลทหารวุ้นเคยเล่าให้ฟังว่าถูกกระสุนเฉียดศีรษะ โชคดีที่สวมหมวกนิรภัย จึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และยังยืนยันกับตนอีกด้วยว่าไม่เป็นอะไรมาก

เรียบเรียงโดย มุมข่าว